แกะสูตรขนมในตลาดยอดฮิต

แกะสูตรขนมในตลาดยอดฮิต

ปัจจุบันตลาดถือเป็นอีก 1 สถานที่ที่คนนิยมไปขายของกัน แม่ค้าและพ่อค้าต่างพากันหาของมาขายเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยกัน ขนมก็เป็นที่นิยมมากในกลุ่มพ่อค่าแม่ค้าที่นำมาขายในตลาด เพราะมีรสชาติที่อร่อย และมีราคาที่น่าจับต้อง แถมยังสามารถรับประทานง่าย และรวดเร็ว ทันยุค สังคมมนุษย์เงินเดือนอีกด้วย วันนี้หาตลาด.com จะพามาแกะสูตรขนมที่นิยมขายในตลาดกัน จะมีขนมอะไรบ้างไปดูกันเลย

1.ขนมครก

ขนมครกจัดเป็นขนมที่มีความนิยมอย่างมากทั้งในปัจจุบันและในอดีต มีหลักฐานพบว่า ขนมครกมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังถูกพบในหลายๆประเทศ แต่มีชื่อเรียกที่แตกต่างต่างกันออกไป อย่างประเทศเพื่อนบ้านเรา อย่างประเทศพม่า จะเรียกว่า โมก หลีน-มะย้า และในประเทศลาว จะเรียก ขนมคก เป็นต้น

ส่วนผสม
ปริมาณ
น้ำเปล่า
1800 มล
แป้งข้าวเจ้า
500 กรัม
น้ำตาลปิ๊ป
125 กรัม
กะทิ
65 มล
เกลือป่น
½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย
35 กรัม
เกลือป่น
½ ช้อนชา
น้ำเปล่า
100 มล

ขั้นตอนการทำ

  1. เติมน้ำเปล้าและกะทิลงไป ตามด้วยเกลือและน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลายก็เป็นอันเสร็จ
  2. เติมน้ำเปล่าไปตามด้วยน้ำตาลปิ๊ป เกลือป่น กะทิ แป้ง ใส่รวมกันไป ปล่อยไว้จนกว่าแป้งจะจมลงไปจนมิด ปล่อยไว้ 10 นาที
  3. ล้างมือให้สะอาด และนำมือไปคนเเละปี้น้ำตาล ลักษณะแป้งจะเหลวคล้ายน้ำเปล่า
    ตักแป้งใส่กา ทุกครั้งที่ตักต้องคนแป้งทุกครั้ง เพื่อไม่ให้แป้งไปเกาะกัน
  4. เช็ดเบ้าขนมครกด้วยผ้าขาวบาง โดยชุ่มน้ำมันแล้วเช็ด
  5. รอให้เตาร้อนละหยอดขนมครกเริ่มจากรอบนอกก่อนโดยหยอดโดยต้องคำนึงเผื่อพื้นที่ให้กะทิโรยหน้าด้วย จากนั้นลงกะทิตามไป ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ขั้นตอนการทำกะทิโรยหน้า

  1. เติมน้ำเปล่าและกะทิลงไป ตามด้วยเกลือและน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลายก็เป็นอันเสร็จ

2.ขนมโตเกียว

ขนมโตเกียวเป็นขนมที่เด็กๆนิยมรับประทานอย่างมาก ด้วยความที่มีเนื้อสัมผัสที่รับประทานง่าย แต่ทราบหรือไม่ว่า ขนมประเทศนี้ไม่ได้พบที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เป็นขนมที่ถูกดัดแปลงมาจากประเทศญี่ปุ่น ที่เรารู้จักอย่างดีในการ์ตูนเรื่อง โดราเรม่อน อย่างขนม  “โดรายากิ” เรียกได้ว่าการที่นำขนมมาดัดแปลงแล้วนำมาจำหน่ายที่ไทยประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะขนมโตเกียว ก็ได้กลายเป็นที่นิยมและบอกกันปากต่อปากถึงเรื่องความอร่อย สืบต่อมาจนเป็นที่นิยม

ส่วนผสม
ปริมาณ
แป้งสาลีอเนกประสงค์
130 กรัม
ไข่ไก่
5 ฟอง
นมสด รสจืด
50 กรัม
น้ำเปล่า
100 กรัม
น้ำตาลทรายขาว
150 กรัม
ผงฟู
1/2ช้อนชา
เบคกิ้งโซดา
1/2ช้อนชา
เกลือ
¼ ช้อนชา
แป้งข้าวโพด
75 กรัม
กะทิ
250 มิลลิลิตร
นมข้นหวาน
150 มิลลิลิตร
น้ำใบเตยคั้นสด
130 มิลลิลิตร

ขั้นตอนการทำ

  1. ใส่แป้งสาลี ตามด้วยน้ำตา่ลทราย เกลือป่น ผงฟู และเบคกิ้งโซดา คนให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำสด น้ำเปล่า และใส่ไข่ไก่โดยตีให้แตกก่อนใส่ คนให้เข้ากันจนแป้งและน้ำตาลละลาย พักไว้ 15 นาที
  2. ต่อมามาทำสังขยาใบเตย ใส่แป้งข้าวโพดลงไป ตามด้วย น้ำตาลทราย เกลือป่น คนให้เข้ากัน เติมน้ำกะทิ น้ำใบเตย นมข้นหวาน และไข่แดงของไข่ไก้โดยตีให้แตกก่อนคนให้ละลายเข้ากัน และกรองลงในกระชอนตาถี่ ทั้งหมด 2 รอบ
  3. ตั้งน้ำในหม้อไฟกลาง ใส่น้ำสังขยาที่เตรียมไว้ กวนไปเรื่อยๆ จนเหนียวโดยไม่หยุด จนถึงจุดที่เหนียวพอใจและก็ปิดเตาและกวนต่อไปอีกสักพักจนกว่าจะอุ่น
  4. จุดเตาเตรียมทำโตเกียว หยดน้ำมันพืชและใช้ผ้าถูให้ทั่วเตา หยดแป้งลงไป 1 กระบวย และใช้กระบวยวนเป็นรูปวงรี รอจนแป้งฟูเเละสุก จากนั้นใส่ไส้สังขยาที่เตรียมไว้ ละห่อด้วยโตเกียวก็เป็นอันเสร็จสิ้นพร้อมทาน

3. ขนมชุบ

ขนมชุบถือเป็นอีกหนึ่งขนมที่มาน่าตาน่ารับประทาน สีสันสวยงามลูกชุบ ได้เกิดขึ้นในช่วงสมัยอยุธยา และนิยมทำในวังเพื่อแจกจ่ายเด็กๆในช่วงเทศกาล และมีท่านผู้หญิง เปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ผู้แต่งตำราแม่ครัวหัวป่าก์  ก็ได้คิดค้นการนำมาปั้นเป็น รูปทรงผลไม้ จึงทำให้ปัจจุบันถูกนำมาปั้นเป็นรูปทรงผลไม้เพื่อวางจำหน่าย

ส่วนผสม
ปริมาณ
ถั่วเขียวซีกดิบ
500 กรัม
หัวกะทิ
500 กรัม
น้ำตาลทราย
450 กรัม
เกลือป่น
1/4 ช้อนชา
แป้งมัน
1 ช้อนโต๊ะ
ผงวุ้นตรานางเงือก AA
80 กรัม
น้ำเปล่า
1500 ml.
น้ำตาลทราย
1 ถ้วยตวง

ขั้นตอนการทำ

  1. ล้างถั่วเขียวซีก 3-4 น้ำหรือล้างจนสะอาด
  2. .แช่น้ำทิ้งไว้ 4 ช.ม จากนั้นนำไปนึ่ง โดยใช้ผ้าขาวบางรองก่อนใส่ที่นึ่ง ใช้เวลา 30 นาที
  3. บดให้ละเอียดโดยเครื่องปั่น
  4. นำถั่วที่บดใส่ลงในกะทะตามด้วยหัวกะทิ น้ำตาลทราย เกลือป่น แป้งมัน คนทุกอย่างให้เข้ากันจากนั้นเปิดเตาด้วยไฟอ่อน จากนั้นคนไปเรื่อยๆ จนไม่ติดกะทะ และปิดกะทิ
  5. นำถั่วมาพักไว้ จากนั้นนำน้ำมันมันใส่ที่มือและนวดถั่ว ให้เนื้อเนียน พอเนื้อเนียนแล้วปั้นรูปร่างตามใจชอบ
  6. ตั้งเตาทำส่วนเคลือบลูกชุบ โดยเทผงวุ้นลงไปใส่ในน้ำ แช่ไว้ประมาณ 30 นาที – 1 ช.ม และเปิดเตาใช้ไฟกลางจากนั้นใส่น้ำตาลทราย 1 ถ้วย คนตลอดเวลา พอเริ่มเดือดละปิดเตา ทิ้งไว้ 5 นาที และช้อนฟองด้านหน้าออก และพักให้อุ่นตัว
  7. กลับมาลงสีลูกชุบให้เรียบร้อย จากนั้นนำไปชุ่มกับส่วนเคลือที่ทำไว้ พักไว้จนเซ็ทตัวก็เป็นอันเสร็จสิ้น

4. ขนมเบื้อง

ขนมเบื้อง เป็นอีกขนมที่พบได้มากที่ตลาด เพราะมีรสชทานติที่หวานหอม มันอร่อย ส่วนใหญ่จะมีทั้งหมด 2 ไส้ ได้แก่ไส้หวาน และไส้เค็ม คนที่ไปตลาดมักจะนิยมซื้อกลับบ้านมาให้ลูกหลานเนื่องจากรับประทานง่าย เป็นที่นิยมของเด็ก รูปร่างหน้าตาของขนมก็น่ากินมาก ปัจจุบันจึงไม่แปลกเลยที่เป็นที่นิยมในการนำมาขาย

ส่วนผสม
ปริมาณ
แป้งข้าวจ้าว
1 กิโลกรัม
แป้งถั่วเขียว
50 กรัม
น้ำตาลปี้บ
100 กรัม
น้ำปูนใส
100 กรัม
ไข่ไก่
3 ฟอง
เกลือ
½ ช้อนโต๊ะ
น้ำไอซิ่ง
1 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว
½ ช้อนโต๊ะ
ฝอยทอง
100 กรัม

ขั้นตอนการทำ

  1. นำแป้งข้าวจ้าว และแป้งถั่วเขียว  ใส่ลงไปก่อน หลังจากนั้นใส่น้ำปูนใสลงไปและก็คลุกเคล้าให้เข้ากันและใส่ไข่ไก่ และน้ำตาลปิ๊ปลงไป ใช้มีบี้ให้น้ำตาลละลาย และในตะกร้อมมาคนอีกครั้ง พักแป้งไว้
  2. มาทำครีมกัน นำไข่ขาว 2 ฟองตีด้วยเครื่องตีจนขึ้นฟู จากนั้นใส่น้ำมะนาว น้ำตาลไอซิ่ง ค่อยๆใส่ลงไปและตีด้วยความแรง และพักไว้
  3. ตั้งเตาหยอดแป้งลงในะทะ ใช้ไฟอ่อน โดยหยอดให้แป้งบางที่สุดเพื่อความกรอบ และพอได้ที่แล้วใส่ตัวครีมลงไป ตามด้วยฝอยทองโดยด้านบนก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ขอแนะนำเมนูเด็ด ๆ