เมนู

รวมสูตรขนมหวานยอดฮิต

สูตรทำขนมไทย ยอดฮิต

ขนมไทย เป็นเมนูที่มีสีสันน่ารับประทานมาก อีกทั้งยังมีรสชาติที่หวาน หอม อร่อย ต้นกำเนิดของขนมไทยถูกสันนิษฐาน มีมาตั้งแต่ยังใช้ชื่อเดิมคือ สยาม เพราะสมัยนั้นมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน แต่ในสมัยนั้นจะไม่ได้ใช้ไข่มาเป็นส่วนผสมหลัก แต่จะใช้เป็นเพียงข้าวโม่หรือการนำข้าวไปตำและผสมกับน้ำตาลหรือมะพร้าวเพื่อทำให้เกิดความหวาน

ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชถือได้ว่าเป็นยุคทองของการทำขนมไทยเลยทีเดียว เพราะมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก โดยช่วงนั้นท่านผู้หญิงวิชาเยนทร์หรือบรรดาศักดิ์ว่า ท้าวทองกีบม้า ได้เข้ามาสอนสูตรวิธีการทำขนมไทยโดยใช้ไข่ในการทำเพื่อเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสให้มีอร่อยมากขึ้น ทำให้มีการเผยแพร่กันอย่างแพร่หลาย และยังเป็นที่นิยมในการนำไข่เพื่อมาทำขนมในปัจจุบัน

1.ทองหยิบ

ทองหยิบถูกนำมาเผยแพร่ในประเทศไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยนั้น ปัจจุบันคนนิยมนำมาทานเล่น หรือใช้ในพิธีมงคลต่างๆ เช่น พิธีมงคลสมรส พิธีบวช เป็นต้น เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคล และทองหยิบยังมีความหมายนัยสื่อถึงการหยิบจับสิ่งใดก็เป็นเงินเป็นทอง

ส่วนผสม
ปริมาณ
น้ำตาลทราย
1,400 กรัม
น้ำเปล่า
1,200 กรัม
ใบเตยมัด
10 ใบ
ไข่แดงไข่เป็ด
8 ฟอง
ไข่แดงไข่ไก่
6 ฟอง
ขั้นตอนการทำทองหยิบ
  1. เริ่มทำน้ำเชื่อมเข้มข้น โดยการตั้งเตา ใส่น้ำเปล่าลงไป 800 กรัม จากนั้นตามด้วยน้ำตาลทราย 1000 กรัม และใบเตย 5 มัด รอให้เข้าที่
  2. นำไข่แดงเป็ดและไก่มากรองในผ้าขาวบาง และใช้ตะกรอง กรองอีกรอบ และใช้เครื่องตีไข่ตีให้เข้ากัน
  3. เริ่มทำน้ำเชื่อมใส โดยการตั้งเตา ใส่น้ำเปล่าลงไป 400 กรัม จากนั้นตามด้วยน้ำตาลทราย 400 กรัม และใบเตย 5 มัด รอให้เข้าที่
  4. นำช้อนตักใข่ที่ทำไว้ใส่ในน้ำเชื่อมเข้มข้น ให้เป็นรูปวงกลม
  5. เสร็จแล้วนำมาใส่ในน้ำเชื่อมใสที่เตรียมไว้
  6. นำมาจัดใส่ในถ้วยให้เป็นรูปคล้ายดอกไม้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

2.ทองหยอด

ทองหยอดจัดเป็นอีกหนึ่งขนมที่มีความนิยมมาก ลักษณะรูปร่างของทองหยอด จะมีรูปร่างเป็นวงกลม หรือวงรี ทำให้ค่อนข้างรับประทานง่าย เด็กๆ ชอบทานเพราะมีสีสันสวยงาม ดึงดูดสายตา ทองหยิบยังมีความหมายมงคลอีกด้วย คือหมายถึงการมีเงินทองใช้ไปไม่รู้จักจบสิ้น ทำให้กลายเป็นขนมมงคลที่คนนิยมใช้ในงานสำคัญต่างๆ อาทิเช่น งานบวช เป็นต้น

ส่วนผสม
ปริมาณ
แป้งข้าวเจ้าอบควันเทียน
90 กรัม
น้ำตาลทราย
1,400 กรัม
น้ำเปล่า
1,200 กรัม
ใบเตยมัด
10 ใบ
ไข่แดงไข่เป็ด
8 ฟอง
น้ำลอยดอกมะลิ
400 กรัม
เปลือกไข่เป็ด
2 ฟอง
ขั้นตอนการทำทองหยอด
  1. ตั้งกระทะใช้ไฟกลางใส่ใบเตยลงไป 4-5 ใบ น้ำลอยมะลิและน้ำตาลทรายขาว 400 กรัม เคี่ยวให้เข้ากันโดยไม่ต้องคน พอละลายเตรียมร้อยแล้ว พักไว้จนน้ำเชื่อมเย็นสนิท
  2. ตีไข่แดงทั้งหมดให้เข้ากันและใส่แป้งข้าวเจ้าอบควันเทีย ค่อยๆใช้ไม้ตีผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ พักทิ้งไว้
  3. มาทำน้ำเชื่อมข้น เทน้ำตาลทราย 1000 กรัมลงไป ตามด้วยเปลือกไข่เป็ด ขย้ำให้เข้ากัน และตามด้วยน้ำลอยดอกมะลิ ¼ ช้อนชา ตามด้วยใบเตย 5 ใบ เคี่ยวด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ทิ้งไว้ไม่ต้องคน พอมีฟองขึ้นน้ำเชื่อมให้ใช้ช้อนตักไข่ที่ตีไว้เมื่อสักครู่ หลอดลงไปทีละลูกก็เป็นอันเสร็จสิ้น

3. เม็ดขนุน

เม็ดขนุนมีลักษณะรูปร่างคล้ายชื่อเรียกเลย คือมีลักษณะเป็นวงรีคล้ายกับเม็ดขนุน และส่วนผสมหลักของขนมชนิดนี้ทำมากจากถั่วเขียว ซึ่งทำให้มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากขนมไทยอื่นๆ ที่ทั้งเม็ดขนุน ยังถูกทำไปไว้ในงานสำคัญต่างๆมากมาย เพราะมีความหมายที่สื่อถึงการมีคนคอยสนับสนุน เกื้อกูล ให้เจริญก้าวหน้าอยู่เสมอ

ส่วนผสม
ปริมาณ
ถั่วเขียวเลาะเปลือก
250 กรัม
หัวกะทิ
250 กรัม
เกลือป่น
1 ช้อนชา
ไข่แดงไข่เป็ด
10 ฟอง
น้ำตาลทราย
1,400 กรัม
น้ำเปล่า
1,200 กรัม
น้ำลอยดอกมะลิ
400 กรัม
ขั้นตอนการทำเม็ดขนุน
  1. แช่น้ำถั่วเขียวเลาะเปลือกทิ้งไว้ประมาณ 5 ชั่วโมง และนำไปล้างน้ำ 2 รอบ
  2. จากนั้นนำไปนึ่งในรังผึ้งที่ห่อด้วยผ้าขาวบาง นึ่งน้ำเดือดจัดไฟแรง 20 นาที พอสุกแล้ว นำไปบดให้ละเอียด
  3. ตั้งไฟกลาง ใส่ถั่วที่นึ่งเสร็จแล้วลงให้กระทะ ตามด้วย น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม เกลือป่นครึ่งช้อน และหัวกระทิ 250 กรัม ให้เข้ากันโดยต้องคนตลอด จนเป็นเนื้อเดียวกัน และปรับไฟให้เป็นไฟอ่อน และกวนให้เข้ากันจนไม่ติดกระทะ จากนั้นปิดแก๊ส พักไว้ให้เย็นสนิท
  4. ตั้งกระทะทำน้ำเชื่อมใสโดยใช้ไฟกลาง ใส่น้ำตาลทราย 500 กรัม น้ำเปล่า 5 มล. และใบเตย 5 ใบ คนให้เข้ากัน จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้น้ำตาลละลาย จึงปิดแก๊ะ และใส่น้ำอบดอกมะลิ 200 กรัม พักทิ้งไว้
  5. นำถั่วกวนที่พักทิ้งไว้มานวดให้เมีความเย็น และนำมาปั้นขึ้นรูปให้เป็นเม็ดขนุน 
  6. ต่อมาทำน้ำเชื่อมข้น ใส่น้ำตาลทรายลงไป 1 กิโลกรัม น้ำเปล่า 800 มล. ใบเตย 5 ใบ  และกลิ่นมะลิ 200 กรัม จากนั้นเปิดไฟกลาง คนให้เข้ากันเล็กน้อย เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนน้ำเชื่อมขึ้นฟอง
  7. นำไข่แดงเป็ดมารีดด้วยผ้าขาวบาง และกรอก 1 รอบ คนให้เข้ากันเล็กน้อย
  8. กลับมาดูที่น้ำเชื่อมข้น หยิบใบเตยออก จากนั้นปิดเเก๊ส และนำถั่วที่ปั่น ชุบกับไข่ที่ตีไว้เมื่อสักครู่ จากนั้น หยอดลงไปในน้ำเชื่อมข้น ปล่อยให้เซ็ทตัวสักครู่ จากนั้นเปิดไฟอ่อน ทิ้งไว้ 2 นาที จากนั้นตักมาพักไว้ในน้ำเชื่อมใสก็เป็นอันเสร็จสิ้น

4. ฝอยทอง

ฝอยทอง มีลักษณะเป็นเส้นเรียงตัวกันคล้ายรังนก รสชาติหวาน และสีเหลืองน่ารับประทาน และชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำเชื่อม  โดยมีกำเนิดจากเมืองอาไวรู และมีการถูกนำไปใช้ในวาระสำคัญต่างๆเช่น งานบุญขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ฝอยทองยังจัดเป็นขนมที่มีความเชื่อสืบต่อกันมาว่าหากได้รับประทาน จะทำให้มีอายุยืนยาว ดั่งเส้นฝอยทอง

ส่วนผสม
ปริมาณ
ไข่แดงเป็ด
15 ฟอง
กลิ่นมะลิ
1 ขวด
น้ำตาลทราย
1,000 กรัม
ตะเกียบ
1 คู่
ไม้จิ้มฟัน
1 คู่
ถุงสามเหลี่ยม
1 ใบ
ขั้นตอนการทำฝอยทอง
  1. นำไข่แดงมาคนให้เข้ากัน กรอกด้วยผ้าขาวบาง  
  2. เจาะถุง 3 เหลี่ยม โดยใช้ไม้จิ้มฟันเจาะที่ปลายถุง มัดปากถุงไว้ก่อนจากนั้นเติมไข่แดงที่ทำไว้ช่วงแรก และมัดปากถุงปิดอีกครั้ง 
  3. ตั้งเตากระทะ ใส่น้ำตาล 1 กิโล และน้ำเปล่า 1 ลิตร ลงไปต้มให้เดือด จากนั้นใส่กลิ่นมะลิ 3-4 หยด 
  4. ตัดเศษฟองออก และในไข่ที่ใส่ในถุงมาปล่อยสายให้วนไปให้เป็นเส้นๆโดยทำจากเป็นวงกลมด้านนอกเข้าข้างใน 
  5. นำตะเกียบมาคนให้เส้นเรียงตัวกันให้สวย พักไว้ในตะแกรงก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ทางลัดไปเมนูต่าง ๆ