เมนู

5 เมนูกาแฟ

เมนูกาแฟยอดฮิต คิดไม่ออกบอก 5 เมนูนี้เลย

1.กาแฟอเมริกาโน่

กาแฟอเมริกาโน่

กาแฟอเมริกาโน่ เป็นเมนูที่มาจากแถบอเมริกา มีคนสันนิษฐานไว้ว่าเมนูอเมริกาโน่มาจากช่วงสงครามโลก ทหารสหรัฐอเมริกากลุ่มหนึ่งที่ประจำการอยู่ที่ประเทศอิตาลีได้ทำการลองดื่มเอสเพรสโซ่ของอิตาลี พอดื่มเข้าไปแล้วเกิดความไม่ประทับใจเนื่องจากรสชาติมีความขมจึงได้มีการหาวิธีโดยการใส่น้ำเข้าไปให้กาแฟนั้นเจือจางลงจึงเป็นที่มาของกาแฟอเมริกาโน่ในปัจจุบันนั่นเอง  

นอกจากนี้ ยังมีวิธีการชงกาแฟอเมริกาโน่ด้วยเครื่องชงกาแฟประเภท drip coffee maker ซึ่งเป็นเครื่องชงกาแฟที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในบ้าน โดยการชงกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟประเภทนี้ จะต้องใช้กระดาษกรองกาแฟและเตรียมน้ำร้อนเต็มเครื่อง จากนั้นใส่เมล็ดกาแฟที่ถูกบดใส่ในตะกร้ากรอง แล้วเปิดเครื่องชงกาแฟให้ทำงาน โดยการชงนี้จะใช้เวลานานกว่าการชงด้วยเครื่องชงกาแฟแบบอื่น ๆ ประมาณ 5-7 นาที จะได้กาแฟที่มีความเข้มและรสชาติที่ดี

สำหรับการเลือกเมล็ดกาแฟสำหรับการชงกาแฟอเมริกาโน่ ควรเลือกเมล็ดกาแฟที่ถูกบดใหม่ และมีคุณภาพดี เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นของกาแฟที่ดี การเลือกเมล็ดกาแฟที่ได้รับความนิยมสูงๆ สำหรับการชงกาแฟอเมริกาโน่ ได้แก่ เมล็ดกาแฟแบบไฮเบริด (High-bred) และ เมล็ดกาแฟแบบอาราบิกา (Arabica) โดยสามารถเลือกได้ตามความชอบของแต่ละคน

2.กาแฟลาเต้

กาแฟลาเต้

กาแฟลาเต้ เป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งในวงการกาแฟ โดยมีการผสมของกาแฟดำและนมร้อน ที่ช่วยเน้นความเข้มข้นของกาแฟให้เป็นอย่างดี ซึ่งบางคนชื่นชอบกลิ่นหอมของนมและกาแฟที่ผสมกันเป็นอย่างมาก

กาแฟลาเต้ เกิดจากการคิดค้นหัวฉีดไอน้ำแรงดันสูง โดยเครื่องฉีดไอน้ำหัวแรกที่อยู่ในเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซนั้น ถูกคิดค้นในปี 1901 จากผู้ผลิตแบรนด์ Luigi Bezzera โดยการทำกาแฟลาเต้นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 1980 ซึ่งในอิตาลีตอนเหนือได้มีการคิดค้นการเทนมที่เป็นลวดลายต่างๆ เพื่อทำให้สวยงามมากยิ่งขึ้น การเทลวดลายต่าง ๆ ลงบนกาแฟเหล่านี้ว่า rosetta  และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กาแฟลาเต้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการทำกาแฟลาเต้ต้องทำเป็นลวดลายที่มีศิลปะจึงเป็นการบ่งบอกความใส่ใจของบาเร็ตต้านั้นๆในการทำกาแฟให้กับผู้บริโภค 

3.กาแฟคาปูชิโน่

กาแฟคาปูชิโน่

คาปูชิโน่ ( Cappuccino ) เป็นเครื่องดื่มกาแฟชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนชอบกาแฟ โดยมีลักษณะเป็นกาแฟขนาดเล็ก ที่มีชั้นของนมสดบนสุด ซึ่งมีรสชาติอ่อนลง แต่มีความคล้ายกับกาแฟดำเนื่องจากมีส่วนผสมของกาแฟดำ 

าร์คิปูเซียอิตาลี คิดค้นเครื่องชงกาแฟแรงดันไอน้ำ ในศตวรรษที่ 20 อีกครั้งเขายังได้ทำการพัฒนาการแฟร์คาปูชิโน่ ให้เป็นกาแฟอิตาเลี่ยนที่ผสมกับกาแฟเอสเพรสโซ่ กาแฟคาปูชิโน่ถูกขนาดนามว่ามีสีสันคล้ายกับผ้าโพกหัวของนักบุญที่มาแสวงหาบุญ 

เนื่องจากการทำกาแฟคาปูชิโน่จะต้องมีการเทนมลงไปด้านบนของตัวกาแฟ และจะทำให้กาแฟถูกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม สำหรับการตั้งชื่อของกาแฟคาปูชิโน่ ถูกตั้งในปีพ.ศ 2491 และถูกประกาศให้ใช้ชื่อนี้ที่ซานฟรานซิสโกเป็นที่แรก ทำให้กาแฟคาปูชิโน่เป็นที่รู้จักเรื่อยมาจนเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน 

4.กาแฟมอคค่า

กาแฟมอคค่า

กาแฟมอคค่า ถูกแพร่หลายมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการบันทึกชื่อไว้ภายใต้ชื่อว่า มอคค่า โดยชื่อมอคค่านี้มีต้นกำเนิด มาจากเมืองมอคค่า เป็นเมืองเล็กๆในทะเลแดงที่ตั้งอยู่ในเขตเยเมน ซึ่งเป็นสถานที่ชื่อดังที่ใช้ในการส่งออกกาแฟที่มีชื่อเสียงอย่างมาก 

ซึ่งสถานที่ส่งออกอย่างเมืองเยเมนมีการผูกขาดการขายสินค้ากาแฟ อยู่ในคาบสมุทรอาหรับ โดยกาแฟมอคค่านี้คือเป็นกาแฟที่มีการเติมช็อกโกแลตเข้าไปเพิ่ม ลักษณะของรสชาติกาแฟมอคค่าจะออกเปรี้ยวๆหวานๆ ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากเพราะการเติมช็อกโกแลตเข้าไปในกาแฟจะทำให้รสชาติมีความนุ่มนวลมากขึ้น อีกทั้งกลิ่นที่เข้มข้นของกาแฟมอคค่ายังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย 

5.กาแฟเอสเพรสโซ่

กาแฟเอสเพรสโซ่

กาแฟเอสเพรสโซ่ (Espresso) เป็นกาแฟที่สกัดเป็น Shot เข้มข้นยอดนิยมกาแฟที่ถูกดันออกมาด้วยแรงดันจากน้ำร้อนที่กำลังเดือดให้ผ่านตัวกาแฟที่บดละเอียดอย่างรวดเร็วผู้ที่ดื่มรสชาตินี้จึงได้ความรู้สึกหรือรสสัมผัสที่เข้มข้นนุ่มนวลและไม่ปรุงแต่งอะไรเพิ่มเติมทั้งสิ้นและกลิ่นของกาแฟชนิดนี้ยังมีเอกลักษณ์ประจำตัวอีกด้วยเนื่องจากไม่ได้ปรุงแต่งอะไรเลย

กาแฟเอสเพรสโซ่ (Espresso) เป็นเครื่องดื่มกาแฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มข้นและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ด้วยกระบวนการชงที่แตกต่างจากกาแฟชนิดอื่น ๆ ทำให้กาแฟเอสเพรสโซ่มีความเข้มข้นและความเข้ากันได้กับนม ทำให้เป็นส่วนประกอบหลักของกาแฟชนิดเอสเพรสโซ่ได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ การเลือกใช้เครื่องชงกาแฟที่มีคุณภาพและใช้เมล็ดกาแฟที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการชงกาแฟเอสเพรสโซ่ ซึ่งเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีจะมีลักษณะการคั่วที่สมบูรณ์และเต็มเปี่ยมด้วยรสชาติ และกลิ่นหอมของกาแฟ เมื่อชงกาแฟเอสเพรสโซ่ ควรจะระวังเรื่องของอุณหภูมิน้ำและแรงดัน

ความแตกต่างของกาแฟชนิดต่างๆ

ความแตกต่างของกาแฟชนิดต่างๆ
  1. กาแฟคาปูชิโน่ (Cappuccino) : เป็นกาแฟชนิดหนึ่งที่ใช้ส่วนประกอบของเอสเพรสโซ่ นม และฟองนมเพื่อให้ได้รสชาติที่สมดุลกัน มีฟองนมบนสุดเป็นลักษณะเด่นของเครื่องดื่มชนิดนี้
  2. กาแฟลาเต้ (Latte) : ชนิดนี้ใช้ส่วนประกอบเหมือนกับคาปูชิโน่ แต่มีน้ำตาลเพิ่มเข้าไปในเครื่องดื่ม ทำให้มีรสชาติหวาน และไม่เข้มข้นเท่ากับคาปูชิโน่
  3. กาแฟมอคค่า (Mocha) : เป็นการผสมระหว่างกาแฟและช็อกโกแลต เพื่อให้ได้รสชาติหวานและความเข้มข้น ใช้ส่วนประกอบเหมือนกับลาเต้แต่เพิ่มช็อกโกแลตเข้าไป
  4. กาแฟอเมริกาโน (Americano) : ชนิดนี้ใช้กาแฟดำเข้มที่บวกน้ำร้อนเข้าไป ทำให้ได้รสชาติเหมือนกับกาแฟดำแต่มีความเข้มข้นน้อยกว่า
  5. กาแฟเอสเพรสโซ่ (Espresso) : แตกต่างจากกาแฟอื่นๆ โดยเฉพาะตรงที่วิธีการชงที่เป็นพิเศษ โดยกาแฟเอสเพรสโซ่จะถูกชงด้วยการดันน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟบดที่หนากว่ากาแฟอื่นๆ ทำให้กาแฟที่ได้มีรสชาติเข้มข้นและเปรี้ยวเข้มข้นกว่า นอกจากนี้ กาแฟเอสเพรสโซ่ยังมีความเข้มข้นในเนื้อเยื่อของกาแฟมากกว่ากาแฟอื่นๆ 

แคลอรีของกาแฟแต่ละแบบ

แคลอรีของกาแฟจะขึ้นอยู่กับปริมาณและประเภทของส่วนประกอบที่เราเติมเข้าไปในกาแฟ โดยทั่วไปแล้วกาแฟจะมีแคลอรีจากน้ำตาลและนมที่เราเติมเข้าไป

  • กาแฟเอสเพรสโซ : 1 แก้ว (1 ออนซ์) มีประมาณ 13 กิโลแคลอรี
  • กาแฟคาปูชิโน่ : 1 แก้ว (8 ออนซ์) มีประมาณ 120 กิโลแคลอรี
  • กาแฟลาเต้ : 1 แก้ว (8 ออนซ์) มีประมาณ 190 กิโลแคลอรี
  • กาแฟมอคค่า : 1 แก้ว (8 ออนซ์) มีประมาณ 290 กิโลแคลอรี

อย่างไรก็ตาม, ปริมาณแคลอรีในกาแฟสามารถเพิ่มขึ้นได้โดยการใส่นมและน้ำตาลเยอะเกินไป ดังนั้นควรระมัดระวังปริมาณนมและน้ำตาลที่ใส่ลงไปในกาแฟเพื่อไม่ให้แคลอรีสูงเกินไปกว่าจะเป็นไปตามที่ต้องการ

การเลือกเมล็ดกาแฟ

เลือกเมล็ดกาแฟ

การเลือกเมล็ดกาแฟเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการชงกาแฟที่มีรสชาติและคุณภาพที่ดี ซึ่งมีลักษณะและคุณสมบัติต่างๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของกาแฟ ดังนั้นในบทความนี้เราจะพูดถึงการเลือกเมล็ดกาแฟแต่ละประเภทตามลักษณะและคุณสมบัติของมัน

  1. เมล็ดกาแฟอาราบิก้า (Arabica) : เป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีความหอมและรสชาติที่อ่อนนุ่ม มักถูกนำมาผสมกับกาแฟชนิดอื่นเพื่อเพิ่มคุณภาพ การเลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้าต้องเลือกจากแหล่งที่มีคุณภาพและผ่านการปลอกเมล็ดเพื่อให้ได้เมล็ดที่สมบูรณ์และไม่มีตำหนิ
  2. เมล็ดกาแฟรับ (Robusta) : มีความเข้มและรสชาติเปรี้ยวกว่าเมล็ดกาแฟอาราบิก้า ใช้ในการผลิตกาแฟชนิดเอสเพรสโซ (Espresso) และกาแฟชนิดอื่นๆ การเลือกเมล็ดกาแฟรับต้องเลือกเมล็ดที่ผ่านการเก็บเกี่ยวและปรับปรุงอย่างถูกต้อง โดยเมล็ดที่ดีจะมีขนาดเท่ากัน และไม่มีตำหนิ
  3. เมล็ดกาแฟลิบีเรีย (Liberica) : เป็นกาแฟที่มีการผลิตน้อยกว่ากาแฟชนิดอื่น มีความเข้มและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มักใช้ในการผลิตกาแฟชนิดเอสเพรสโซ แต่มีรสชาติและกลิ่นที่ไม่เหมือนกับเมล็ดกาแฟรับและเมล็ดกาแฟอาราบิก้า การเลือกเมล็ดกาแฟลิบีเรียจำเป็นต้องเลือกเมล็ดที่เก็บเกี่ยวและปรับปรุงอย่างถูกต้อง โดยเมล็ดที่ดีจะมีขนาดเท่ากัน
  4. เมล็ดกาแฟพูลิช (Peaberry) : เมล็ดกาแฟพูลิชเป็นเมล็ดกาแฟที่เกิดจากเมล็ดที่มีแต่หัวเมล็ดเท่านั้น มีรสชาติและกลิ่นที่อ่อนนุ่มกว่าเมล็ดกาแฟปกติ การเลือกเมล็ดกาแฟพูลิชต้องเลือกจากเมล็ดที่มีขนาดและน้ำหนักเท่ากัน และไม่มีตำหนิ
  5. เมล็ดกาแฟเขียว (Green Coffee) : เมล็ดกาแฟเขียวเป็นเมล็ดกาแฟที่ยังไม่ได้ผ่านการอบและยังมีสารสกัดอยู่ภายใน มีรสชาติและกลิ่นที่เปลี่ยนไปตามสารสกัดที่มีอยู่ การเลือกเมล็ดกาแฟเขียวจำเป็นต้องเลือกจากเมล็ดที่มีสีเขียวเข้มและไม่มีตำหนิ

ทางลัดไปเมนูต่าง ๆ