รับซื้อของเก่ายังไงให้ได้ราคาดี ?
หลายๆคนต้องเคยเห็นหรือเคยได้ยินเรื่องร้านรับซื้อของเก่าไม่ก็การรับของเก่าแน่นอน เพราะว่าร้านเหล่านี้พบได้มากมายหลายๆที่ นอกจากนั้นเชื่อว่าหลายคนยังเคยเอาของที่ไม่ได้ใช้ หรือเป็นของเก่าชิ้นใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวีเก่าเครื่อง ตู้เย็นขนาดใหญ่ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เพราะว่าอุปกรณ์เหล่านี้ตอนซื้อมาก็มีราคาแพง แต่จะให้ทิ้งไปเปล่าๆก็เสียดาย ดังนั้นหากเอาไปขายยังร้านขายของเก่าก็ยังพอได้ เงินมาใช้อยู่บ้าง ดีกว่าเอาไปทิ้งเฉยๆ
โดยแน่นอนว่าร้านขายของเก่าหลายๆที่ก็มีของที่รับซื้อและก็มีของที่ไม่รับซื้อ ชิ้นใหญ่ๆไปที่ร้านและร้านขายของเก่าไม่รับซื้อก็คงจะเหนื่อยอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นหากจะเอาของเก่าอะไรไปขายก็ควรเช็คให้ดีว่าร้านขายของเก่าที่ไปรับซื้อหรือเปล่า
รวมอุปกรณ์ที่ร้านรับซื้อของเก่ามักจะรับซื้อ
1.แอร์เก่า
ร้านรับซื้อของเก่ามักจะรับซื้อแอร์เก่า ยิ่งถ้ามีอุปกรณ์ครบชุดก็อาจจะได้ราคาที่มากกว่าเดิมโดยปกติแล้วราคาในการรับซื้อ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแอร์ รุ่น และขนาด BTU โดยราคาจะอยู่ในช่วง 1,000 บาทถึง 3,000 บาท ซึ่งแน่นอนว่าก็อาจมีปัจจัยหลายๆอย่างประกอบด้วย
2.คอมพิวเตอร์เก่า
คอมพิวเตอร์เก่าหากขายยังร้านรับซื้อของเก่าโดยปกติแล้วราคาจะอยู่ที่ CPU mainboard Ram หรือพวกกล่อง Harddisk โดยแน่นอนว่าถ้าขายให้ร้านขายของเก่าก็คงจะได้ราคาไม่มาก โดยอาจจะได้ราคาอยู่ในช่วง 100 – 200 ว่าบาทขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ
3.สายไฟ
สายไฟเก่าเป็น 1 ในสิ่งที่ร้านขายของเก่ามักจะรับซื้อ พอข้างในสายไฟเป็นทองแดง ทั้งยังนำมารีไซเคิลได้ง่าย โดยทั่วไปแล้วราคาสายไฟเก่าจะอยู่ในช่วง 20 – 50 บาท
4.เครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าเก่าเครื่องซักผ้าเก่าก็ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ร้านรับซื้อของเก่าซื้อ เพราะ 1 เครื่องซักผ้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่นอกจากนั้นยังนำไปรีไซเคิลแล้วได้วัตถุดิบต่างๆเป็นจำนวนมาก ทำให้ร้านรับซื้อของเก่ามักจะนิยมรับซื้อโดยราคาของเครื่องซักผ้าเก่าจะอยู่ที่ 200 – 300 บาท
5.เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าโดยปกติแล้วร้านรับซื้อของเก่ามักจะรับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพราะว่าสามารถนำไปรีไซเคิลและได้วัตถุดิบหลายอย่าง ซึ่งราคาที่จะได้นั้นก็ตามแต่ขนาดและชนิดของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ
6.ทีวี
ทีวีเก่าโดยทั่วไปแล้วร้านรับซื้อของเก่าก็มักจะรับซื้อทีวีเก่าอยู่เสมอและแน่นอนว่าราคาที่ร้านรับซื้อของเก่าให้ก็ตามแต่ขนาดของทีวี โดยร้านรับซื้อของเก่ามักจะรับซื้ออยู่ในช่วง 30-100 บาทตามแต่ขนาดและรุ่นของทีวี
7.ตู้เย็น
ตู้เย็นเก่าถือเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่นอกจากนั้นยังมีน้ำหนักทำให้สามารถนำไปรีไซเคิลและได้วัตถุดิบหลายๆอย่างที่มีประโยชน์โดยทั่วไปร้านรับซื้อของเก่ามักจะรับซื้อในราคา 300-400 บาทตามแต่ขนาดตู้เย็น
8.แบตเตอรี่
หากนำไปแบตเตอรี่ไปที่ร้านรับซื้อของเก่าก็จะมีหลายร้านที่รับซื้อแบตเตอรี่ โดยแน่นอนว่าแบตเตอรี่ก็มีหลายแบบหลายราคา ตั้งแต่ แบตเตอรี่ขนาดเล็ก แบตเตอรี่แห้ง โดยราคามักจะอยู่ในช่วง 12-20 บาทต่อกิโล
โดยแน่นอนว่าร้านรับซื้อของเก่าก็เอาอาจจะรับซื้ออุปกรณ์นอกเหนือจากนี้และร้านรับซื้อของเก่าแต่ละร้านก็อาจจะรับซื้อของแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน ซึ่งราคาก็เปลี่ยนแปลงไปตามร้านบางร้านอาจจะรับซื้อสินค้าบางชนิดแพงบางชนิดถูกก็เป็นได้
นอกจากอุปกรณ์ขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์ต่างๆแล้วร้านรับซื้อของเก่ายังรับซื้อวัตถุดิบต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น กระดาษ แก้ว พลาสติก โลหะหรือทองแดงอีกด้วย ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้ราคาก็อาจจะขึ้นอยู่กับคุณภาพและปัจจัยหลายๆอย่าง
วัตถุดิบที่ร้านรับซื้อของเก่ามักจะรับซื้อ
1.เศษเหล็ก
แน่นอนว่าเศษเหล็กหรือว่าโลหะนั้นก็มีหลายประเภทหลายราคา โดยมีทั้งเศษเหล็กแบบหนาหรือเศษเหล็กแบบบาง แต่โดยเฉลี่ยแล้วร้านรับซื้อของเก่าจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 5-10 บาท
2.กระดาษ
กระดาษถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ร้านรับซื้อของเก่ามักจะรับซื้อ ซึ่งกระดาษที่ร้านรับซื้อของเก่ารับซื้อก็มีหลายประเภท กระดาษแบบกระดาษ A4 กระดาษหนังสือพิมพ์ หนังสือ กระดาษลูกฟูก และกระดาษแบบอื่นๆอีกมากมาย โดยราคาจะอยู่ในช่วง 1 บาทถึง 5 บาท ตามแต่ชนิดกระดาษและสภาพ
3.เศษพลาสติก
พลาสติกหรือเศษพลาสติกก็มักเป็นที่ต้องการของร้านรับซื้อของเก่าโดยแน่นอนว่า ตั้งแต่พลาสติกขาวแข็ง พลาสติกสีอ่อนและพลาสติกสีแข็งและนอกจากนั้นพลาสติกก็ยังมีคุณภาพและเกรดที่แตกต่างกัน ทำให้ร้านรับซื้อของเก่ามักจะรับซื้อพลาสติกอยู่ในช่วง 1 บาทถึง 8 บาทตามแต่เกรดของพลาสติกและคุณภาพ
4.ขวดพลาสติก
ขวดพลาสติกขวดพลาสติกถือเป็นหนึ่งในสินค้ายอดนิยมที่ร้านรับซื้อของเก่าจะต้องรับซื้ออยู่ตลอดโดยแน่นอนว่าขวดพลาสติกก็แตกต่างกันและมีหลายแบบ ทั้งขวดพลาสติกที่แกะฉลากน้ำดื่มหรือยังไม่แกะฉลากน้ำดื่มก็มีราคาที่แตกต่างกันยกตัวอย่างเช่น พลาสติกที่แกะสลักน้ำดื่มแบบใส 8 บาท แต่ขวดพลาสติกที่ไม่แกะฉลากน้ำดื่ม รับซื้อกิโลละ 6 บาท โดยราคารับซื้อของขวดพลาสติกนั้นจะอยู่ในช่วง 5-10 บาท
5.ขวดแก้ว
ขวดแก้วก็ถือเป็นอีกหนึ่งในสินค้าที่ร้านรับซื้อของเก่ารับซื้ออยู่ตลอด เพราะสามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย และยังมีราคาที่ดี โดยทั่วไปแล้วขวดแก้วก็ขายกันหลายแบบอย่างการขายเป็นกิโลกรัมหรือการขายเป็นขวด ซึ่งถ้าเป็นขวดแก้ว ที่มีคุณภาพไม่ดี หรือเป็นเศษ ขวดแก้ว ก็รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 1-2 บาท แต่ถ้าเป็นขวดแก้วที่มีคุณภาพดี อาจรับซื้อในราคา ลังละ 10 บาท ถึง 20 บาท หรือตกขวดละ 1 บาทถึง 1 บาทกว่านั่นเอง
6.อลูมิเนียม
อลูมิเนียม ถือเป็นหนึ่งในของเก่าที่มีราคานอกจากนั้นร้านรับซื้อของเก่ายังรับซื้ออลูมิเนียมอยู่เสมอ โดยแน่นอนว่าอลูมิเนียมก็มีหลายแบบมาก เวลารับซื้อของเก่าก็มักรับซื้อเป็นกิโลโดยราคาอลูมิเนียมจะอยู่ตั้งแต่ในช่วง 20-30 บาทต่อกิโล
7.ท่อ PVC
ท่อ PVC ก็สามารถนำไปขายร้านรับซื้อของเก่าได้โดยแน่นอนว่าท่อ PVC เองก็มีหลายประเภท โดยราคาจะอยู่ในช่วง โดยราคาจะมีตั้งแต่ 2 บาทถึง 5 บาท
8.ทองแดง
ทองแดงจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ร้านรับซื้อของเก่ารับซื้อแทบทุกร้านและยังสามารถขายได้ราคาดี โดยราคาทองแดงก็ตามแต่เกรดทองแดงและรูปแบบทองแดง 90 ถึง 150 บาทต่อกิโลเลยทีเดียว
9.ทองเหลือง
ทองเหลืองก็ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบยอดฮิตที่ร้านรับซื้อของเก่ารับซื้อแทบทุกที่ โดยราคาจะอยู่ในช่วง 50-100 บาท
โดยแน่นอนว่าใครอยาก นำของเก่าหรือนำสินค้าอุปกรณ์ ไปขายยังร้านรับซื้อของเก่าราคาอาจไม่ได้ตามที่คาดหวังหรือตามที่คิด เพราะร้านรับซื้อของเก่าจำเป็นต้องแยกสิ่งของที่เรานำไปขายหรือนำไปจัดการ
การนำของเก่าไปขายให้ได้ราคาดี ก็ควรนำไปขายยังร้านที่รับซื้อ สินค้านั้นๆโดยตรง ตัวอย่างเช่นหากนำตู้เย็นไปขายร้านรับซื้อของเก่าอาจได้ราคา 300 – 400 บาท แต่หากนำไปขายร้านรับซื้อตู้เย็นเก่า ก็อาจได้ราคามากกว่า 500 บาทก็เป็นได้ หรือหากนำเครื่องซักผ้าไปขายร้านรับซื้อของเก่า อาจได้ราคา 200 – 300 บาท แต่หากนำไปขายยังร้านรับซื้อเครื่องซักผ้าเก่า ก็อาจได้ ราคา ที่มากกว่า 500 บาทก็เป็นได้
นำไปขายเป็นของมือสอง
หากใครอยากนำของเก่าไปขายให้ได้ราคาดีจริงๆก็ควรนำไปขายยังร้านขายของมือสองซึ่งแน่นอนว่าการนำไปขายยังร้านขายของมือสองก็มีโอกาสสูงที่จะได้ราคาดีกว่าการนำไปขายยังร้านขายของเก่า แต่แน่นอนว่าสินค้าอะไรหลายรายการร้านขายของมือสองก็มักจะไม่รับ ทำให้หากใครจะนำอุปกรณ์ไปขายยังร้านขายของมือสองก็ควรเช็คให้ดีว่าร้านนั้นๆรับอุปกรณ์อะไรบ้าง
โดยแน่นอนว่าถ้าหากอยากให้ได้ราคาดีที่สุด ก็อาจจำเป็นต้องขายเองซึ่งในปัจจุบันการนำของมือสองไปขายก็มีหลายที่ที่สามารถนำไปขายได้ โดยที่ที่ดีที่สุดกล้าจะเป็นการโพสต์ขายในอินเตอร์เน็ต โดยในปัจจุบันก็มี
หลายPlatform ที่สามารถให้ สามารถลงขายได้ นอกจากนั้นหากตั้งราคาไว้สมเหตุสมผลและไม่แพง โดยอุปกรณ์ที่ขายยังมีคุณภาพดีอยู่ การขายของมือสองก็สามารถขายของออกได้อย่างไม่ยาก